องค์ประกอบของพยางค์และคำ
พยางค์ คำ และหน้าที่ของคำ
พยางค์
การที่เราเปล่งเสียงออกมาจากลำคอครั้งหนึ่ง ๆ นั้น เราเรียกเสียงที่เปล่งออกมาว่า “พยางค์”แม้ว่าเสียงที่เปล่งออกมาจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ตาม เช่น เราเปล่งเสียง “สุ” ถึงจะไม่รู้ความหมาย หรือไม่รู้เรื่องเราก็เรียกว่า ๑ พยางค์ หากเราเปล่งเสียงออกมาอีกครั้งหนึ่งว่า “กร” จะเป็น “สุกร” จึงจะมีความหมาย คำว่า “สุกร” ซึ่งเปล่งเสียง ๒ ครั้ง เราก็ถือว่ามี๒ พยางค์ เสียงที่เปล่งออกมาครั้งเดียวมีความหมาย เช่น นา หมายถึง ที่ปลูกข้าว เสียงที่เปล่งออกมาว่า “นา” นี้เป็น ๑พยางค์ลองดูตัวอย่างต่อไปนี้
- ไร่ มี๑ พยางค์
- ชาวไร่ มี๒ พยางค์ (ชาว-ไร่)
- สหกรณ์ มี๓ พยางค์ (สะ-หะ-กอน)
- โรงพยาบาล มี๔ พยางค์ (โรง-พะ-ยา-บาน)
- นักศึกษาผู้ใหญ่ มี๕ พยางค์ (นัก-สึก-สา-ผู้-ใหญ่)
- สหกรณ์การเกษตร มี๖ พยางค์ (สะ-หะ-กอน-การ-กะ-เสด)
จากตัวอย่างข้างบนนี้สรุปได้ว่า
พยางค์ คือ เสียงที่เปล่งออกมาครั้งหนึ่ง จะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ตาม ถ้าเปล่งเสียงออกมา ๑ ครั้ง ก็เรียก ๑ พยางค์ สองครั้งก็เรียก ๒ พยางค์
องค์ประกอบของพยางค์
พยางค์เกิดจากการเปล่งเสียงพยัญชนะ สระ และวรรณยุกต์ออกมาพร้อม ๆ กัน พยางค์ที่มีความหมายอาจจะเป็นพยางค์เดียวหรือหลายพยางค์ก็ได้พยางค์แต่ละพยางค์จะต้องมีส่วนประกอบ ๓ ส่วนขึ้นไป คือ สระ พยัญชนะ และวรรณยุกต์ การประกอบสระ พยัญชนะและวรรณยุกต์เข้าเป็นพยางค์เรียกว่า การประสมอักษรมี๔วิธี คือ
๑. การประสมสามส่วน คือ การประกอบพยางค์ด้วยพยัญชนะต้น สระ และวรรณยุกต์ เช่น
กา องค์ประกอบ คือ
๑. พยัญชนะ ก
๒. สระ อา
๓. วรรณยุกต์ เสียงสามัญไม่มีรูป
๒. การประสมสี่ส่วน คือ การประสมพยางค์ด้วยพยัญชนะต้น สระ พยัญชนะท้ายพยางค์หรือ
ตัว สะกด และวรรณยุกต์ เช่น
เกิด องค์ประกอบ คือ
๑. พยัญชนะต้น ก
๒. สระ เออ
๓. วรรณยุกต์ เสียงเอกไม่มีรูป
๔. ตัวสะกด ด
๓. การประสมสี่ส่วนพิเศษ คือ การประกอบพยางค์ด้วยพยัญชนะต้น สระ พยัญชนะท้าย พยางค์ที่ไม่ออกเสียงหรือตัวการันต์ และวรรณยุกต์ เช่นเล่ห์องค์ประกอบ คือ
๑. พยัญชนะต้น ล
๒. สระ เอ
๓. วรรณยุกต์ เสียงโท
๔. ตัวการันต์ ห
๔. การประสมห้าส่วน คือ การประกอบพยางค์ด้วยพยัญชนะต้น สระ พยัญชนะท้ายพยางค์หรือตัวสะกด พยัญชนะท้ายพยางค์ที่ไม่ออกเสียง หรือตัวการันต์ และวรรณยุกต์ เช่นสิงห์องค์ประกอบ คือ
๑. พยัญชนะ ส
๒. สระ อิ
๓. วรรณยุกต์ เสียงจัตวาไม่มีรูป
๔. ตัวสะกด ง
๕. ตัวการันต์ ห
คำ
ความหมายของคำ
คำ ตามความหมายในหลักภาษา หมายถึง เสียงที่เปล่งออกมาแล้วมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่ง อาจเป็นเสียงที่เปล่งออกมาครั้งเดียวหรือหลายครั้งก็ได้ เช่น
- นา เป็นคำ๑ คำ ๑ พยางค์
- ชาวนา เป็นคำ๑ คำ ๒ พยางค์
- นักศึกษา เป็นคำ๑ คำ ๓ พยางค์
คำคือ พยางค์ที่มีความหมาย คำมากพยางค์คือ พยางค์หลายพยางค์รวมกันแล้วมีความหมายผู้เรียนพอจะทราบไหมว่า พยางค์กับคำต่างกันอย่างไร อ่านต่อไปท่านก็จะทราบพยางค์คือ เสียงที่เปล่งออกมาครั้งหนึ่งจะมีความหมายหรือไม่มีความหมายก็ได้
คำคือ เสียงที่เปล่งออกมาครั้งหนึ่งจะกี่พยางค์ก็ตามถ้าได้ความจึงจะเรียกว่า “คำ”
องค์ประกอบของคำ
คำหนึ่ง ๆ จะต้องประกอบด้วย เสียง แบบสร้างและความหมาย
๑. เสียง คำหนึ่งอาจมีเสียงเดียวหรือหลายเสียงก็ได้ คำเสียงเดียวเรียกว่า คำพยางค์เดียว คำหลายเสียงเรียกว่า คำหลายพยางค์
คำพยางค์เดียว เช่น กิน นอน เดิน น้ำ ไฟ ฯลฯ
คำหลายพยางค์ เช่น บิดา นาฬิกา กระฉับกระเฉง ฯลฯ
๒. แบบสร้าง คำประกอบด้วยพยางค์ และพยางค์หนึ่ง ๆ อาจมีส่วนประกอบ ๓ ส่วน ๔ ส่วน ๕
ส่วนก็ได้
๓. ความหมาย คำจะต้องมีความหมายอย่างใดอย่างหนึ่งหรือหลายอย่างก็ได้ เช่น ขัน มีความหมายต่างกันสุดแต่ทำหน้าที่ใด ขึ้นอยู่กับรูปและประโยค เช่นขันใบนี้ ทำหน้าที่นาม แปลว่า ภาชนะใส่สิ่งของไก่ขัน ทำหน้าที่กริยา แปลว่า ร้องเขาขันเชือก ทำหน้าที่กริยา แปลว่า ทำให้แน่นเขาทำงานแข็งขัน ทำหน้าที่วิเศษณ์ แปลว่า ขยันไม่ย่อท้อเขาพูดน่าขัน ทำหน้าที่วิเศษณ์ แปลว่า ชวนหัวเราะ
สรุป โครงสร้างของพยางค์และคำพยางค์
เสียงพยัญชนะ + เสียงสระ + เสียงวรรณยุกต์
พยางค์+ ความหมาย
คำ
กลุ่มพยางค์+ ความหมาย
ชนิดและหน้าที่ของคำในภาษาไทย
Hard Rock Hotel Casino & Spa - Mapyro
ตอบลบFind Hotels near Hard Rock Hotel 김해 출장샵 Casino & 고양 출장샵 Spa in Las 부천 출장마사지 Vegas, NV, United States. 경상남도 출장샵 Hard Rock Hotel Casino & Spa - Mapyro Nevada 오산 출장샵